กระบวนการและดุลยพินิจตามกฎหมาย: การแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงในระบอบการปกครองคณะสงฆ์ไทย

การบริหารกิจการคณะสงฆ์ไทย โดยเฉพาะในส่วนของการปกครองอารามชั้นสูงอย่าง “พระอารามหลวง” นั้น เป็นเรื่องที่มีระเบียบแบบแผนและข้อกฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อธำรงไว้ซึ่งความเรียบร้อยและศักดิ์ศรีแห่งสถาบันศาสนา ปัจจุบัน การแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงดำเนินไปภายใต้ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ (แก้ไขเพิ่มเติมโดยฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๓๕) ควบคู่กับ กฎมหาเถรสมาคม ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจระหว่างผู้บริหารระดับสูงและมติขององค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์

๑. อำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้ง ตามหลักการของกฎหมายคณะสงฆ์ฉบับปัจจุบัน อำนาจสูงสุดในการแต่งตั้งเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เป็นพระอำนาจของ สมเด็จพระสังฆราช อย่างไรก็ตาม การใช้อำนาจดังกล่าวต้องผ่านกระบวนการเห็นชอบตามมติของ มหาเถรสมาคม (มส.) ก่อนเสมอ เพื่อให้การตัดสินใจนั้นเป็นไปในรูปแบบขององค์คณะบุคคลที่มีความรอบคอบ

๒. กระบวนการเสนอรายชื่อและการพิจารณา ขั้นตอนการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าว เป็นระบบการปกครองตามลำดับชั้น (Hierarchical System) ดังนี้

  • การเสนอชื่อ: เป็นหน้าที่ของ เจ้าคณะจังหวัด ในการพิจารณาคัดเลือกพระสังฆาธิการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และนำเสนอรายชื่อผ่านผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงมหาเถรสมาคม
  • กรณีพิเศษ: หากพระภิกษุผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอยู่ด้วย ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ เจ้าคณะภาค เป็นผู้ดำเนินการเสนอรายชื่อแทน ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนและสร้างความโปร่งใสในกระบวนการ

๓. คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่ง กฎมหาเถรสมาคม (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานสำหรับผู้ที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในพระอารามหลวงไว้อย่างชัดเจน ได้แก่

  • คุณวุฒิและวัยวุฒิ: ต้องมีพรรษาพ้น ๑๐ และเป็นผู้ทรงเกียรติคุณ เป็นที่ยอมรับนับถือของทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์
  • สมณศักดิ์: ต้องมีสมณศักดิ์สอดคล้องกับชั้นของพระอารามหลวง ตัวอย่างเช่น หากเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกในกรุงเทพมหานคร ผู้ดำรงตำแหน่งต้องมีสมณศักดิ์ไม่ต่ำกว่า พระราชาคณะชั้นราช เป็นต้น

๔. พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของอำนาจการแต่งตั้ง เมื่อพิจารณาในเชิงประวัติศาสตร์กฎหมาย จะพบวิวัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคมและการเมือง

  • ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์: ภายใต้ พ.ร.บ.ลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ (พ.ศ. ๒๔๔๕) พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจโดยตรงในการเลือกสรรและแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงตามพระราชอัธยาศัย
  • ยุคประชาธิปไตย (สังฆสภา): ภายใต้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ อำนาจการบริหารอยู่ที่ “คณะสังฆมนตรี” ซึ่งทำหน้าที่ถวายคำแนะนำแด่สมเด็จพระสังฆราชเพื่อมีพระบัญชาแต่งตั้ง สะท้อนรูปแบบการปกครองที่ล้อไปกับระบบรัฐสภาในทางโลก

บทสรุป ระเบียบปฏิบัติในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการจัดระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ให้มีเอกภาพ โดยผสานอำนาจของประมุขสงฆ์เข้ากับมติของที่ประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อให้ได้มาซึ่งศาสนทายาทผู้มีความเหมาะสมทั้งในด้านวัตรปฏิบัติและคุณสมบัติตามกฎหมาย ในการดูแลรักษาพระอารามหลวงสืบไป

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *