บูรณาการสองโลก: ผ่าโครงสร้างอำนาจและกลไกกำกับดูแล ‘โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา’

ในภูมิทัศน์ของการศึกษาไทย “โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา” ถือเป็นโมเดลที่ท้าทายที่สุดรูปแบบหนึ่ง เพราะเป็นการจัดการศึกษาแบบ “ทวิภาค” (Dual Curriculum) ที่ต้องหลอมรวมหลักธรรมทางศาสนาเข้ากับวิชาการทางโลก ภายใต้โจทย์ที่ซับซ้อนนี้ การบริหารจัดการจึงมิอาจขึ้นอยู่กับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยการประสานพลังระหว่าง “จักรล้อแห่งธรรม” (คณะสงฆ์) และ “จักรล้อแห่งรัฐ” (กระทรวงศึกษาธิการ)

บทความนี้จะพาไปสำรวจโครงสร้างการอนุมัติและกำกับดูแล ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างสองโลกนี้

๑. กลไกการอนุมัติหลักสูตร: ภายใต้กฎเหล็ก ๒ มาตรฐาน

แม้ว่าตามกฎหมาย คณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม (กศป.) จะเป็นผู้ถืออำนาจสูงสุดในการอนุมัติหลักสูตร แต่สำหรับแผนกสามัญศึกษา อำนาจนั้นไม่ได้เป็นอิสระโดยสมบูรณ์ แต่ถูกกำกับด้วยเงื่อนไขสำคัญ ๒ ประการ เพื่อประกันคุณภาพ

  1. มาตรฐานทางโลก: หลักสูตรต้องสอดคล้องกับ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้วุฒิการศึกษานั้นสามารถนำไปใช้ศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพได้จริง
  2. มาตรฐานทางธรรม: เนื้อหาต้องเป็นไปตามที่ มหาเถรสมาคม กำหนด เพื่อรักษาอัตลักษณ์ความเป็นศาสนทายาท

๒. ระบบนิเวศการกำกับดูแล: การผนึกกำลังข้ามหน่วยงาน

เนื่องจากเป็นการจัดการศึกษาที่คาบเกี่ยวระหว่างสองมิติ จึงมีหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในบทบาทที่แตกต่างกัน

  • มิติวิชาการสามัญ: คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กคฐ.) เข้ามามีบทบาทในการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับรายวิชาสามัญที่ผู้เรียนต้องศึกษาเพิ่มเติม โดยกระบวนการนี้ต้องทำควบคู่ไปกับ “คำแนะนำของมหาเถรสมาคม”
  • มิติการส่งเสริม: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง คอยสนับสนุนและให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามมาตรฐานชาติ
  • มิติการควบคุมสูงสุด: กศป. ยังคงยืนหยัดในฐานะองค์กรกำกับดูแล (Regulator) สูงสุดตามกฎหมาย ที่ควบคุมดูแลภาพรวมของการจัดการศึกษาทั้งหมด

๓. ลำดับชั้นการจัดตั้ง: การกลั่นกรองจากฐานรากสู่ยอดพีระมิด

การจะก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สักแห่ง ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยพลการ แต่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองตามลำดับชั้นการปกครอง (Hierarchical Approval Process) เพื่อตรวจสอบความพร้อม

  1. ระดับจังหวัด: เริ่มต้นการพิจารณาจาก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร หรือ เจ้าคณะจังหวัด ในพื้นที่
  2. ระดับเขต: ส่งต่อให้ ประธานเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลั่นกรองในระดับภูมิภาค
  3. ระดับแผนก: เสนอต่อ ประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา (ส่วนกลาง)
  4. ระดับนโยบาย: สิ้นสุดที่ คณะกรรมการ (กศป.) เป็นผู้อนุมัติขั้นสุดท้าย

บทสรุป โครงสร้างการบริหารของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สะท้อนให้เห็นถึงระบบ “Checks and Balances” (การตรวจสอบและถ่วงดุล) ที่เข้มข้น ระหว่างมาตรฐานวิชาการของรัฐและหลักธรรมวินัยของสงฆ์ เพื่อให้มั่นใจว่าศาสนทายาทที่จบจากระบบนี้ จะเป็นผู้ที่ “รอบรู้ทางโลกและลึกซึ้งทางธรรม” อย่างแท้จริง

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *