สิทธิแห่งความยุติธรรม: ผ่ากระบวนการ ‘อุทธรณ์’ ของเจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรมเมื่อถูกลงโทษ

ในระบบการบริหารงานบุคคลที่มีธรรมาภิบาล “ดาบอาญาสิทธิ์” ในการลงโทษทางวินัย จะต้องมาพร้อมกับ “โล่แห่งสิทธิ” ในการโต้แย้งเสมอ สำหรับ เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาคณะสงฆ์ กฎหมายได้วางกลไกการ “อุทธรณ์” (Appeal Process) ไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ทุกคำสั่งลงโทษจะผ่านการตรวจสอบความถูกต้องและเป็นธรรม

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเส้นทางของการอุทธรณ์ ๒ ระดับ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อคานอำนาจระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา

๑. ด่านหน้าแห่งความยุติธรรม: การอุทธรณ์ต่อ ‘ผู้มีอำนาจตามข้อ ๓๐’

เมื่อ จศป. ได้รับคำสั่งลงโทษจากผู้บังคับบัญชาในระดับต้นและเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่เป็นธรรม กฎระเบียบเปิดช่องให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ได้ในเบื้องต้น โดยต้องยื่นเรื่องไปยัง “ผู้มีอำนาจตามข้อ ๓๐”

บุคคลกลุ่มนี้คือผู้บริหารสูงสุดของส่วนงานการศึกษาพระปริยัติธรรมที่ จศป. ผู้นั้นสังกัดอยู่ ได้แก่

  1. แม่กองบาลีสนามหลวง
  2. แม่กองธรรมสนามหลวง
  3. ประธานกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา
  4. ประธานศูนย์พระปริยัตินิเทศก์แห่งคณะสงฆ์

เงื่อนไขเวลา: หัวใจสำคัญของการรักษาสิทธิคือ “เงื่อนไขเวลา” โดยกฎหมายกำหนดให้ผู้ร้องต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง หรือถือว่าได้ทราบคำสั่งลงโทษนั้น หากพ้นกำหนดนี้อาจถือว่าสละสิทธิ์

๒. ศาลสถิตยุติธรรมสูงสุด: การอุทธรณ์ต่อ ‘กศป.’

แม้ระบบจะวางกลไกการกลั่นกรองไว้ในระดับส่วนงานแล้ว แต่ยังมี “ข้อยกเว้น” สำหรับกรณีพิเศษ หรือกรณีที่ข้อขัดแย้งยังไม่ยุติ ซึ่งกฎหมายเปิดทางให้ผู้ร้องสามารถยื่นอุทธรณ์ข้ามระดับไปยัง คณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม (กศป.) ซึ่งเป็นองค์กรนโยบายสูงสุดได้โดยตรง ใน ๒ กรณีดังนี้:

  • กรณีที่ ๑: คู่กรณีคือผู้มีอำนาจสูงสุดเอง หากผู้ที่สั่งลงโทษ จศป. คือ “ผู้มีอำนาจตามข้อ ๓๐” (เช่น แม่กองฯ สั่งลงโทษด้วยตนเอง) ย่อมไม่สมเหตุสมผลที่จะให้ยื่นอุทธรณ์ต่อบุคคลเดิม กรณีนี้จึงให้สิทธิอุทธรณ์ต่อ กศป. ได้ทันที
  • กรณีที่ ๒: ความเห็นแย้งต่อคณะกรรมการบริหารงานบุคคล (กบป.) หากเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ กบป. แล้ว แต่ จศป. ยังไม่เห็นด้วยกับความเห็นหรือคำวินิจฉัยนั้น ก็สามารถใช้สิทธิเฮือกสุดท้ายยื่นอุทธรณ์ต่อ กศป. ได้เช่นกัน

เงื่อนไขเวลา: เช่นเดียวกับการอุทธรณ์ขั้นต้น การยื่นเรื่องต่อ กศป. จะต้องกระทำภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่งหรือผลการวินิจฉัย

บทสรุป กระบวนการอุทธรณ์ของเจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างระบบ “ตรวจสอบและถ่วงดุล” (Checks and Balances) ภายในองค์กรสงฆ์ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้อำนาจของผู้บังคับบัญชาอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง และบุคลากรทุกคนมีช่องทางในการเรียกร้องความยุติธรรมตามสิทธิที่พึงมี

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *