มหาทุกขักขันธสูตร: “กาม” = “กับดัก” (เมื่อความสุขที่คุณวิ่งตาม คือระเบิดเวลา)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
เจริญพร สาธุชนผู้มีปัญญาและปรารถนาความสุขอันแท้จริงทุกท่าน
วันนี้อาตมภาพอยากชวนพวกเรามาคุยเรื่อง “ความสุข” เชื่อไหมโยม? ว่าคนเราเกิดมาเกือบทั้งชีวิต วิ่งวุ่นหาความสุขกันทั้งนั้น ตื่นเช้ามาทำงานก็เพื่อเงิน… ได้เงินมาก็เพื่อซื้อของ… ได้ของมาก็เพื่อความสุขใจ เราคิดว่า “ถ้าฉันรวย ฉันจะมีความสุข”, “ถ้าฉันมีแฟนสวยๆ หล่อๆ ฉันจะฟินที่สุด”, “ถ้าฉันได้กินของอร่อย ฉันคงหายเหนื่อย”
แต่โยมเคยสังเกตไหม? ยิ่งเราวิ่งตามหาความสุขพวกนี้มากเท่าไหร่ ทำไมใจเรากลับยิ่งร้อนรน ยิ่งเหนื่อย และยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น?
เมื่อ ๒,๕๐๐ ปีก่อน พระพุทธองค์ได้ทรงเปิดเผยความลับของจักรวาลในเรื่องนี้ไว้ในพระสูตรที่ชื่อว่า “มหาทุกขักขันธสูตร” แปลตรงตัวก็คือ “สูตรว่าด้วยกองทุกข์ก้อนมหึมา” พระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่า ไอ้สิ่งที่เราเรียกว่า “ความสุข” นั้น แท้จริงแล้วมันคือ “ยาพิษเคลือบน้ำตาล”
วันนี้อาตมาจะพาโยมมาถอดรหัสพระสูตรนี้ เพื่อให้เราตาสว่างและหยุดวิ่งไล่จับเงาเสียที
๑. มองให้ครบ ๓ มิติ: อย่าเป็นคนตาบอดคลำช้าง
พระพุทธองค์ทรงสอนว่า เวลาจะมองสิ่งใดในโลกนี้ (โดยเฉพาะ กาม, รูป, เวทนา) อย่ามองแค่ด้านเดียว คนทั่วไปมักมองเห็นแต่ “ข้อดี” (คุณ) เหมือนเห็นเห็ดสีสวยๆ ในป่า ก็รีบวิ่งเข้าไปเก็บมากิน แต่ผู้มีปัญญา ต้องมองให้ครบ 3 มิติ คือ
- คุณ (ข้อดี): มันอร่อยจริงไหม? สวยจริงไหม?
- โทษ (ข้อเสีย): กินแล้วตายไหม? เก็บแล้วมีงูฉกไหม?
- ทางออก (การถ่ายถอน): ถ้าไม่อยากตาย จะเลิกกินมันได้อย่างไร?
ถ้าโยมรู้ไม่ครบ 3 ข้อนี้ โยมจะไม่มีวันหลุดพ้นจากทุกข์ได้เลย
๒. กาม: ความสุขราคาแพง… ที่จ่ายด้วยชีวิต
มาดูตัวร้ายเบอร์หนึ่งของเรากัน… “กาม” (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) พระพุทธองค์ยอมรับนะโยม ว่ากามมีความสุขจริง (เป็น “คุณ” ของกาม) แต่ทรงเปรียบเทียบว่า ความสุขจากกามนั้น “น้อยนิด” เมื่อเทียบกับ “โทษ” มหาศาลที่ตามมา
โทษที่ ๑: ทุกข์ในปัจจุบัน (เห็นๆ กันอยู่) โยมลองมองดูสังคมทุกวันนี้สิ…
- ที่เราต้องตื่นแต่เช้า ฝ่ารถติด ไปทำงานงกๆ จนป่วย จนเครียด ก็เพื่ออะไร? เพื่อเงินมาสนองกามไม่ใช่หรือ? (นี่คือทุกข์จากการแสวงหา)
- พอหาเงินมาได้ ก็ต้องมานั่งระแวง กลัวโจรปล้น กลัวเศรษฐกิจพัง กลัวหุ้นตก (นี่คือทุกข์จากการรักษา)
- พี่น้องฆ่ากันแย่งมรดก ผัวเมียตบตีกันเพราะแย่งชู้ ประเทศรบกันเพราะแย่งทรัพยากร (นี่คือทุกข์จากการแย่งชิง)
- บางคนยอมทำผิดกฎหมาย โกงกิน ปล้นจี้ จนสุดท้ายต้องติดคุก โดนประหาร (นี่คือทุกข์จากการลงโทษ)
เห็นไหมโยม? เบื้องหลังความฟินของชาไข่มุก 1 แก้ว หรือไอโฟน 1 เครื่อง มันแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ ความเครียด และบางครั้งคือเลือดเนื้อและชีวิต!
โทษที่ ๒: ทุกข์ในอนาคต (นรกกินหัว) ไม่จบแค่นั้นนะโยม… คนที่หลงในกาม มักจะทำบาปทางกาย วาจา ใจ ตายไปแล้ว “กาม” ก็ยังตามไปถีบส่งลงนรก เป็นเปรต เป็นอสุรกายอีก นี่คือ “กองทุกข์” ก้อนมหึมา ที่ซ่อนอยู่หลังภาพสวยหรูของกามคุณ
๓. ความงามและความรู้สึก: ระเบิดเวลาที่รอวันนับถอยหลัง
นอกจากกามแล้ว พระองค์ยังให้ดู “รูป” (ร่างกาย) และ “เวทนา” (ความรู้สึก)
- รูป: สาวๆ หนุ่มๆ ที่ว่าสวยหล่อ ผิวพรรณเต่งตึง (นี่คือคุณ) แต่อีกไม่กี่ปี… หนังเหี่ยว ฟันหัก ผมหงอก หลังค่อม สุดท้ายก็นอนอืดเป็นศพให้หนอนกิน (นี่คือโทษ) แล้วเราจะไปยึดติดอะไรกับสิ่งที่เน่าเปื่อยได้ขนาดนี้?
- เวทนา: ความสุขใจ ความสบายใจ (นี่คือคุณ) แต่มันก็ “ไม่เที่ยง” แปรปรวนไปตามอารมณ์ เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ (นี่คือโทษ) แม้แต่ความสุขระดับฌานสมาธิ ก็ยังมีการเสื่อมถอยได้
สาธุชนทั้งหลาย…
วันนี้อาตมาไม่ได้มาบอกให้โยมทิ้งทุกอย่างแล้วไปบวชเข้าป่า แต่มาเพื่อ “เปลี่ยนแว่นตา” ให้โยมใหม่
จากนี้ไป… เวลาโยมเห็นของสวยๆ งามๆ เห็นอาหารน่ากิน เห็นโปรโมชั่นลดราคา อย่าเพิ่งรีบกระโจนเข้าใส่เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ให้ดึงสติกลับมา แล้วถามตัวเองดังๆ ว่า “คุ้มไหม?”
คุ้มไหม… ที่จะแลกความสงบสุขของใจ ไปกับความสุขชั่ววูบ? คุ้มไหม… ที่จะยอมเครียด ยอมป่วย ยอมผิดศีล เพื่อไขว่คว้า “ขยะ” มาสะสมไว้?
พระพุทธองค์ทรงชี้ทางออกไว้แล้ว (นิสสรณะ) คือการ “ถอนความพอใจ” (ฉันทราคะ) ออกเสีย ฝึกใจให้เป็น “ผู้ดู” ไม่ใช่ “ผู้เสพ” มีความสุขกับสิ่งง่ายๆ กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน และที่สำคัญ… ฝึกจิตให้สงบ ให้เข้าถึงความสุขที่ไม่อิงวัตถุ (สมาธิ)
เมื่อโยมเห็นโทษของกามชัดเจน ใจโยมจะคลายความยึดติดเองโดยอัตโนมัติ เหมือนคนเห็นงูพิษ… ต่อให้งูตัวนั้นมีลายสวยแค่ไหน โยมก็จะไม่กอดมันเด็ดขาด เมื่อนั้นแหละ โยมจะพบกับ “อิสรภาพ” ที่แท้จริง อิสรภาพที่ไม่ต้องเป็นทาสของตัณหา และไม่ต้องแบก “กองทุกข์ก้อนมหึมา” นี้ไว้อีกต่อไป
ขอให้ทุกท่านจงเป็นผู้มีปัญญา เห็นภัยในวัฏสงสาร และสามารถถ่ายถอนตนเองออกจากกองทุกข์ได้ในเร็ววันด้วย เทอญ.
เจริญพร.

