วนปัตถสูตร: อยู่ต่อ…หรือพอแค่นี้? (คู่มือตัดสินใจฉบับพุทธแท้ เมื่อชีวิตถึงทางแยก)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

เจริญพร สาธุชนผู้กำลังยืนอยู่บนทางแยกของชีวิตทุกท่าน

วันนี้อาตมภาพมีคำถามที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยถามตัวเองอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต… “เราควรจะอยู่ตรงนี้ต่อ… หรือเราควรจะไป?”

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานที่ทำอยู่ เรื่องแฟนที่คบอยู่ หรือแม้แต่สังคมที่เราเอาตัวเข้าไปคลุกคลี บางครั้งเราก็สับสน เลือกไม่ถูก ใจหนึ่งก็เสียดายความสบาย เสียดายเงินเดือน เสียดายความผูกพัน แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่า “มันไม่ใช่” อยู่ไปก็เหมือนใจจะขาด ร้อนรน ไม่มีความสุข

ถ้าโยมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ อาตมาอยากบอกข่าวดีว่า พระพุทธเจ้าท่านได้วาง “Decision Matrix” หรือ “เกณฑ์การตัดสินใจ” เอาไว้ให้เราแล้วเมื่อ ๒,๕๐๐ ปีก่อน ในพระสูตรที่ชื่อว่า “วนปัตถสูตร” (Vanapattha Sutta) พระสูตรนี้เปรียบเสมือน “คู่มือ Audit ชีวิต” ที่จะช่วยให้โยมฟันธงได้เลยว่า สถานการณ์ไหนควร “สู้ยิบตา” และสถานการณ์ไหนควร “หนีให้ไวที่สุด”

๑. KPI ของชีวิต: อะไรคือตัวชี้วัดความสำเร็จ?

ก่อนจะตัดสินใจ พระพุทธองค์ทรงสอนให้เราตั้ง “ตัวชี้วัด” (KPI) ให้ถูกก่อน คนทางโลกมักใช้ “เงิน” หรือ “ความสบาย” เป็นตัวชี้วัด แต่ในทางธรรม พระพุทธองค์ทรงแบ่งตัวชี้วัดออกเป็น 2 ด้าน คือ

  1. ด้านกายภาพ (ปัจจัย ๔): อาหาร, ที่อยู่, เสื้อผ้า, ยารักษาโรค (หรือเงินทอง ความสะดวกสบายในยุคนี้) หาง่ายไหม? ลำบากไหม?
  2. ด้านจิตวิญญาณ (สมณธรรม): สติ, สมาธิ, ปัญญา, ความละกิเลส ดีขึ้นไหม? หรือแย่ลง?

และกฎเหล็กของพระสูตรนี้มีข้อเดียวคือ “จิตวิญญาณ สำคัญกว่า กายภาพเสมอ” จำกฎข้อนี้ไว้ให้แม่นนะโยม แล้วมาดู ๔ สถานการณ์ที่เราต้องเจอ

๒. ๔ สถานการณ์: เช็คลิสต์ว่าเราอยู่จุดไหน?

พระพุทธองค์ทรงจำลองสถานการณ์การเข้าไปอยู่ใน “ป่า” (หรือที่ทำงาน/ความรัก) ออกเป็น 4 รูปแบบ ดังนี้

สถานการณ์ที่ ๑: นรกบนดิน (แย่ทั้งกาย แย่ทั้งใจ)

  • สภาพ: งานก็หนัก เงินก็ไม่ดี เพื่อนร่วมงานก็ Toxic อยู่แล้วเครียด สติแตก กิเลสพุ่งพล่าน
  • คำแนะนำ: “หนีไปเดี๋ยวนี้!” (หลีกไปเสียจากป่าชัฏนั้น) ไม่ต้องรอลางาน ไม่ต้องรอเช้า พระองค์บอกว่า “แม้เวลากลางคืนก็ให้หนีไป” เพราะอยู่ไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เสียกับเสีย

สถานการณ์ที่ ๒: กับดักกรงทอง (สบายกาย แต่ใจเสื่อม)

  • สภาพ: นี่คือกับดักที่คนยุคนี้ติดกันเยอะที่สุด! งานสบาย เงินดี เจ้านายเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี… แต่! ต้องทำเรื่องผิดศีลธรรม ต้องโกง ต้องเลียแข้งเลียขา หรืออยู่แล้วกลายเป็นคนขี้เกียจ หลงระเริง สติปัญญาถดถอย
  • คำแนะนำ: “ทิ้งมันซะ!” พระพุทธองค์ทรงเด็ดขาดมากข้อนี้ ทรงบอกว่า แม้ปัจจัย 4 จะหาง่ายแค่ไหน ก็ให้หลีกไปเสีย เพราะเราไม่ได้เกิดมาเพื่อแค่กินอิ่มนอนอุ่น แต่เราเกิดมาเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ การเอาวิญญาณไปแลกกับเศษเงิน… ไม่คุ้ม!

สถานการณ์ที่ ๓: เตาหลอมเพชร (ลำบากกาย แต่ใจเจริญ)

  • สภาพ: งานหนัก เงินน้อย ที่อยู่กันดาร อาหารไม่อร่อย… แต่! อยู่แล้วได้ฝึกความอดทน ได้เจอครูบาอาจารย์ดี ได้ฝึกสมาธิ จิตใจเข้มแข็ง กิเลสลดลง
  • คำแนะนำ: “ต้องอยู่ต่อ!” ห้ามหนีเด็ดขาด ให้กัดฟันสู้ เพราะนี่คือสนามฝึกของจริง ความลำบากทางกายเป็นแค่เรื่องชั่วคราว แต่กำไรทางจิตวิญญาณที่ได้มา จะติดตัวโยมไปตลอดกาล

สถานการณ์ที่ ๔: สวรรค์บนดิน (สบายกาย และใจเจริญ)

  • สภาพ: สถานที่ที่สัปปายะ อาหารดี ที่อยู่ดี แถมยังทำให้จิตใจสงบ เจริญสติได้ง่าย
  • คำแนะนำ: “อยู่จนตาย!” (อยู่จนตลอดชีวิต) แม้ใครจะมาไล่ ก็ไม่ต้องไป ให้เกาะติดสถานที่นั้น หรือบุคคลนั้นไว้แน่นๆ เพราะหาได้ยากยิ่งในโลกนี้

๓. ประยุกต์ใช้กับ “คน” และ “ความสัมพันธ์”

พระสูตรนี้ไม่ได้ใช้แค่กับการเลือกที่อยู่ แต่ยังรวมถึงการเลือก “คบคน” ด้วย โยมลองเอาเกณฑ์นี้ไปจับกับ แฟน เพื่อน หรือ อาจารย์ ดูนะ

  • ถ้าคบใครแล้ว… ชีวิตพัง จิตใจต่ำลง ชวนกันทำชั่ว = เลิกคบ
  • ถ้าคบใครแล้ว… เขาเปย์เก่ง พาไปกินของแพง แต่ชอบด่าทอ ชอบพาเราไปนินทาคนอื่น ทำให้เราเป็นคนขี้อิจฉา = เลิกคบ (อย่าเห็นแก่ของกิน)
  • ถ้าคบใครแล้ว… เขาอาจจะจน พาเราลำบากบ้าง แต่เขาเป็นคนดี ชวนเราสวดมนต์ เตือนสติเราเวลาเราทำผิด = รักษาเขาไว้ให้ดี

สาธุชนทั้งหลาย…

ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะเสียเวลาอยู่ในที่ที่ “ไม่ใช่” และมันก็มีค่าเกินกว่าจะเอาไปแลกกับความสบายจอมปลอมที่ทำลายจิตวิญญาณ

วันนี้… อาตมาขอให้โยมกลับไปเป็น Auditor ตรวจสอบชีวิตตัวเอง อย่าใช้ความ “เสียดาย” มาเป็นข้ออ้าง อย่ากลัวความลำบาก จนยอมทิ้งความถูกต้อง

ถ้าโยมกำลังอยู่ใน “กรงทอง” (สถานการณ์ที่ 2) ที่สบายแต่จิตใจเสื่อมลง… ขอให้ถามตัวเองดังๆ ว่า “เราเกิดมาเพื่อเป็นหมูที่รอวันเชือด หรือเกิดมาเพื่อเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ?” จงกล้าที่จะก้าวออกมา! ความอดอยากทางกาย ไม่น่ากลัวเท่าความยากจนทางความคิดและจิตใจ

แต่ถ้าโยมกำลังอยู่ใน “เตาหลอม” (สถานการณ์ที่ 3) ที่ลำบากแต่จิตใจสูงขึ้น… อาตมาขอกราบอนุโมทนา และขอให้โยม “อดทน” อย่าเพิ่งถอดใจ อย่าเพิ่งหนี เพราะเพชรที่งดงาม ล้วนต้องผ่านความร้อนแรงดันสูงมาทั้งนั้น ความลำบากในวันนี้ คือต้นทุนของความหลุดพ้นในวันหน้า

จงใช้ “ปัญญา” นำทาง อย่าใช้แค่ “ตัณหา” (ความอยากสบาย) นำทาง เมื่อโยมเลือก “รักษาใจ” เป็นอันดับหนึ่ง… ไม่ว่าโยมจะอยู่ที่ไหน ชีวิตโยมจะไม่มีวันตกต่ำ ขอให้ทุกท่านจงมีดวงตาเห็นธรรม มีความกล้าหาญในการเลือกทางเดินที่ถูกต้อง เพื่อความเจริญงอกงามไพบูลย์ในชีวิต ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ.

เจริญพร.

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *