Tagged: การศึกษาพระปริยัติธรรม
ในระบบการบริหารจัดการองค์กรสมัยใหม่ “ทุนมนุษย์” (Human Capital) ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด แต่การจะบริหารบุคลากรจำนวนมากให้มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมได้นั้น จำเป็นต้องมี “ผู้ออกกฎ” หรือ Regulator ที่เข้มแข็ง ในระบบการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย ภายใต้ข้อบังคับปี พ.ศ. ๒๕๖๓ บทบาทนี้ตกเป็นของ คณะกรรมการบริหารงานบุคคลการศึกษาพระปริยัติธรรม (กบป.)
คำว่า “แม่กอง” ในบริบทของการสอบธรรมสนามหลวงนั้น มีวิวัฒนาการควบคู่มากับการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย ในช่วงเริ่มแรกของการสอบธรรมสนามหลวง (พ.ศ. ๒๔๕๔ เป็นต้นมา) คำว่า “แม่กอง” ยังไม่ได้หมายถึงตำแหน่งถาวรหรือองค์กรกลางเพียงหนึ่งเดียวอย่างในปัจจุบัน แต่หมายถึง “ประธานหรือหัวหน้าผู้กำกับดูแลการสอบ” ในแต่ละสนามสอบ
เมื่อถึง พ.ศ. ๒๔๗๘ คณะสงฆ์ได้ตั้งหลักสูตร “ธรรมศึกษาเอก” ขึ้น และอนุญาตให้ฆราวาสสอบได้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการเติมเต็มระบบการศึกษาธรรมสำหรับฆราวาสให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทั้ง ๓ ชั้น
เมื่อเห็นว่าฆราวาสสนใจศึกษาและสมัครสอบธรรมศึกษาตรีกันเป็นจำนวนมาก ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ คณะสงฆ์จึงได้ตั้งหลักสูตร “ธรรมศึกษาโท” ขึ้น เพื่อเป็นการขยายการศึกษานักธรรมสำหรับฆราวาสให้กว้างขวางและแพร่หลายยิ่งขึ้น อันเป็นการส่งเสริมการศึกษาพระพุทธศาสนาทางหนึ่ง
สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง (Royal Dhamma Studies Office) ถือเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในโครงสร้างการบริหารการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย ในฐานะหน่วยงานปฏิบัติการหลักที่รับผิดชอบการจัดการศึกษาและการประเมินผล “หลักสูตรพระปริยัติธรรม แผนกธรรม” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเผยแผ่และสืบทอดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ทั้งแก่พระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ทั้งภายในราชอาณาจักรและในต่างประเทศ