แฟ้มธรรม ตอนที่ ๓๙: ไม่ต้องแบกตำราเข้ากรุง! ย้อนรอยประกาศปี ๒๔๖๕ กระจายศูนย์สอบ “นักธรรมโท” สู่ภูธร
ความลำบากของพระบ้านไกล ย้อนกลับไปก่อนปี พ.ศ. ๒๔๖๕ การศึกษาพระปริยัติธรรมเริ่มบูมมากในต่างจังหวัด แต่มีปัญหาใหญ่คือ:
ความลำบากของพระบ้านไกล ย้อนกลับไปก่อนปี พ.ศ. ๒๔๖๕ การศึกษาพระปริยัติธรรมเริ่มบูมมากในต่างจังหวัด แต่มีปัญหาใหญ่คือ:
จุดเริ่มต้นคดีแดง ปี พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นปีแรกที่มีการจัดสอบ “นักธรรมชั้นโท” ทุกอย่างน่าจะเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (แม่กองหลวง) ทรงตรวจข้อสอบแล้วพบ “ความผิดปกติ”
เดิมทีการสอบนักธรรมของ “สามเณร” จะได้รับสิทธิพิเศษคือ “ไม่ต้องสอบวิชาวินัย” (กฎระเบียบของพระ) เนื่องจากในอดีตสามเณรที่เข้าสอบมักเป็นเด็กเล็กๆ การให้เรียนวินัยพระที่ซับซ้อนอาจจะเกินวัยไปหน่อย
หลังจากที่ “นักธรรมชั้นตรี” (สำหรับพระบวชใหม่) ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม พระสงฆ์มีความรู้พื้นฐานแน่นปึ้ก! ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส จึงทรงกดปุ่ม “อัปเกรด” หลักสูตรขึ้นไปอีกขั้น
พัดนักธรรม: เกียรติยศแห่งผู้รู้ธรรม เมื่อแรกตั้งนักธรรมชั้นตรีขึ้นนั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ได้โปรดให้ทำพัดรอง มีตราคณะสงฆ์ (ตราธรรมจักร) ประทานแก่ผู้สอบนักธรรมชั้นตรีได้ เพื่อเป็นการยกย่องนักธรรม ครั้นการสอบนักธรรมชั้นตรีแพร่หลายไป มีผู้สอบนักธรรมชั้นตรีได้มากขึ้น ผู้ได้รับประทาน พัดนักธรรม ก็มีมากขึ้น จนผู้ได้รับพัดนักธรรมไม่รู้สึกว่าเป็นเกียรติยศ จึงไม่ค่อยนิยมถือกัน
การศึกษานักธรรม ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕ นั้นได้รับความนิยมและแพร่หลายไปในหมู่ภิกษุสามเณรอย่างรวดเร็ว ทั้งในกรุงเทพฯ และในหัวเมืองมณฑลต่าง ๆ มีการเรียนการสอบกันอย่างกว้างขวาง ทายกทายิกาในถิ่นนั้น ๆ ก็พลอยยินดีและให้ความอุปถัมภ์บำรุงการสอบนักธรรมกันอย่างครึกครื้น บางแห่งทายกทายิกามาประชุมดูการเรียนการสอบนักธรรมกันอย่างเนืองแน่น

More